วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เรียนภาษาจีนสบายๆ

ดีใจมากๆที่ได้เรียนภาษาจีน คุณครูใจดีและสอนภาษาจีนให้เข้าใจได้ง่าย มีความรู้สึกดีๆกับภาษาจีน ขอขอบคุณเหล่าชือทุกท่านนะคะ

โครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นม.1


โครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี "เรื่อง ม็อกเทลสมุนไพรไทย" จัดทำโดย นักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 (เทศบาลสงเคราะห์) ชั้น ม.1 ซึ่งกวาดรางวัลมาทั้งหมด 4 รางวัลแล้ว ได้แก่รางวัลโครงานเหรียญทองยอดเยี่ยม ในการประกวดโครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ระดับ โรงเรียนในสังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี ระดับเขตการศึกษาท้องถิ่นที่ 5 และระดับเขตการศึกษาท้องถิ่นภาคกลาง ประจำปีการศึกษา 2551 และรางวัลล่าสุดรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 งานมหกรรมวิชาการ 2552 โรงเรียนในสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จัด ณ เมืองทองธานี
การนำสมุนไพรไทย ผักและผลไม้ มาประยุกต์ปรุงเป็นม็อกเทลสมุนไพรไทย นอกจากจะสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นแล้ว ยังนำไปใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว และสามารถนำไปเผยแพร่สู่สากลในการใช้รับรองเลี้ยงผู้มาเยือนตามวาระโอกาสต่างๆ และเป็นการคิดค้นสูตรเครื่องดื่มสุขภาพที่แปลกใหม่อยู่เสมอ ทั้งนี้สามารถเสริฟด้วยวิธีต่างๆเช่น
1.Shake&Strain วิธีการเขย่าและกรอง
2.Stir วิธีการคนผสม
3.Build&Pour วิธีการรินหรือเท เทรินส่วนผสมทั้งหมดลงในแก้วที่มีน้ำแข็งรออยู่ โดยไม่ต้องคน
4.Blend วิธีการปั่น จะเทส่วนผสมทั้งหมดลงเครื่องปั่น (Blender) แล้วปั่นจนเละเอียดข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน สำหรับวิธีการนี้ อาจจะเรียกได้อีกแบบว่า เครื่องดื่มผสมสมูธตี้ส์ Smoothies ซึ่งเป็นวิธีสากล ตามหลักการเสริฟของเครื่องดื่มประเภทม็อกเทลซึ่งปราศจากแอลกอฮอล์ และยังคงสรรพคุณของสมุนไพรไทย
จากการทำโครงงานสุขภาพแข็งแรงด้วยแสงแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่นเรื่อง ม็อกเทลสมุนไพรไทย ของ
นักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3 (เทศบาลสงเคราะห์) จังหวัดราชบุรี พบว่า
1. อัตราส่วนของน้ำสมุนไพรไทยและน้ำผักและน้ำผลไม้ที่เหมาะสมในการทำม็อกเทลสมุนไพรไทย ที่มีรสชาติดีและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดคือ ม็อกเทลสมุนไพรไทยสีส้ม มีส่วนผสมของน้ำส้ม น้ำแครอท น้ำมะนาว น้ำขิง น้ำเชื่อม ในอัตราส่วน 26.67:26.67:13.32:6.67:26.67 ม็อกเทลสมุนไพรไทยที่มีรสชาติดีและเป็นที่ยอมรับอันดับที่สองคือ ม็อกเทลสมุนไพรไทยสีม่วง มีส่วนผสมของ น้ำดอกอัญชัญ น้ำมะพร้าวอ่อน น้ำมะนาว ในอัตราส่วน 36.36:36.36:9.10:18.18 ม็อกเทลสมุนไพรไทยที่มีรสชาติดีและเป็นที่ยอมรับอันดับที่สามคือ ม็อกเทลสมุนไพรไทยสีเขียว มีส่วนผสมน้ำตะลิงปิง น้ำสะระแหน่ น้ำมะนาว น้ำเชื่อมสีเขียว น้ำเชื่อม ในอัตราส่วน30.77:7.70:15.38:30.77:15.38 ม็อกเทลสมุนไพรไทยที่มีรสชาติดีและเป็นที่ยอมรับอันดับที่สี่คือ ม็อกเทลสมุนไพรไทยสีเหลือง มีส่วนผสมของ น้ำกระชาย น้ำสับปะรด น้ำมะนาว น้ำเชื่อมในอัตราส่วน 16.67:33.33:16.67:33.33
2. ม็อกเทลสมุนไพรไทยที่มีวิตามินซีมากที่สุดคือ ม็อกเทลสมุนไพรไทยสีเหลือง มีส่วนผสมของ น้ำกระชาย น้ำสับปะรด น้ำมะนาว น้ำเชื่อม อันดับที่สองคือ ม็อกเทลสมุนไพรไทยสีส้ม มีส่วนผสมของน้ำส้ม น้ำแครอท น้ำมะนาว น้ำขิง น้ำเชื่อม อันดับที่สามคือ ม็อกเทลสมุนไพรไทยสีม่วง มีส่วนผสมของ น้ำดอกอัญชัญ น้ำมะพร้าวอ่อน น้ำมะนาว น้ำเชื่อม อันดับที่สี่คือ ม็อกเทลสมุนไพรไทยสีเขียว มีส่วนผสมน้ำตะลิงปิง น้ำสะระแหน่ น้ำมะนาว น้ำเชื่อมสีเขียว น้ำเชื่อม
ประโยชน์ของการทำโครงงานม็อกเทลสมุนไพรไทย ของโรงเรียนเทศบาล 3 (เทศบาลสงเคราะห์) จังหวัดราชบุรี คือ
1. ผู้สนใจสามารถเลือกดื่มม็อกเทลสมุนไพรไทยเพื่อช่วยในการป้องกันการเป็นโรคหวัดของตนเองและผู้อื่นได้ โดยพิจารณาจากการทดสอบวิตามินซีในเครื่องดื่มดังกล่าว อีกทั้งได้สรรพคุณการป้องกันรักษาจากสมุนไพรไทยที่อยู่ในม็อกเทลสมุนไพรไทยแต่ละสี
2. ผู้จัดทำโครงานก็คือตัวนักเรียนเองและผู้สนใจได้แนวทางในการสืบสานการใช้สมุนไพรไทย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ควรอนุรักษ์ให้เยาวชนรุ่นหลังได้เรียนรู้
3. ผู้จัดทำโครงาน(นักเรียน)และผู้สนใจได้อัตราส่วนของน้ำสมุนไพรไทยและน้ำผลไม้ที่เหมาะสมในการทำ ม็อกเทลสมุนไพรไทย
4. ผู้จัดทำโครงาน(นักเรียน)และผู้สนใจสามารถค้นหาสูตรและขั้นตอน วิธีการทำม็อกเทลสมุนไพรไทยได้ด้วยตนเอง
5.ม็อกเทลสมุนไพรไทยที่มีวิตามินซีมากที่สุดคือ ม็อกเทลสมุนไพรไทยสีเหลือง มีส่วนผสมของ น้ำกระชาย น้ำสับปะรด น้ำมะนาว น้ำเชื่อม เนื่องจากว่าสูตรนี้ประกอบด้วยน้ำผลไม้มากกว่าสูตรอื่น
และสุดท้าย
6. ผู้จัดทำโครงงาน(นักเรียน)มีทักษะในการทำงานกลุ่มและการทำโครงงาน รวมทั้งการเขียนรูปเล่มโครงงานและการจัดแผงโครงงาน

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Paleerath Manalers

Paleerath Manalers
Municipal School 3